เรื่องเสียว เบาๆ หน่อย หนูเจ็บเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อราวๆ ต้นเดือน ธันวาคม ครับ ผมเพิ่งจะได้มีโอกาสบอกเล่าประสบการณ์ครั้งนี้ให้เพื่อนๆ ฟัง ก่อนอื่นขอแนะนำตัวสักนิดเพื่ออรรถรสในการเล่าเรื่อง ผมชื่อนทีครับ รับราชการอยู่ในหน่วยงานของอำเภอหนึ่ง ณ จังหวัดทางภาคอีสานตอนล่าง ที่ทำงานของผมอยู่ติดกับโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งแบบรั้วชนรั้วเลยล่ะครับ และบังเอิญบ้านพักข้าราชการของผมดันอยู่ติดสนามซ้อมเชียร์ของเชียร์ลีดเดอร์โรงเรียนซะด้วยทุกเย็นเมื่อผมทำกิจวัตรประจำวันก็จะเห็นเด็กๆมัธยมสาวๆซ้อมเชียร์กันเสียงดังอยู่เรื่อยช่วงใกล้กีฬาสี แน่นอนว่ารั้วกั้นของสองสถานที่ราชการเป็นกำแพงไม่สูงนักแถมช่องโผล่เอาไว้ อันนี้ไม่ได้บอกว่าตัวเองหล่อหรืออะไรนะครับ แต่สาวๆ ชอบแซวผมจังเลย โดยเฉพาะน้องกะเทยวันนั้นก็เป็นอีกวันที่เด็กๆ ซ้อมเชียร์กัน แต่ผมได้มีโอกาสคุยกับพวกเธอเพราะมีใครบางคนจงใจขว้างของข้ามรั้วมา “พี่คะ ช่วยเก็บของให้หน่อยได้ไหมคะ” เด็กสาวตัวเล็กน่ารัก รีบวิ่งมาตรงรั้วก่อนพูดคุยกับผม เรายิ้มให้กันจากนั้นผมจึงก้มเก็บของที่หล่นมา เป็นกล่องกระดาษเล็กๆที่ด้านหน้าเขียนว่า “ขอไลน์หน่อยค่ะ” ผมนี่เขินแทบเอาหน้าซุกกำแพงยืนแก้มแดงมองยัยเด็กที่ยิ้มเขินๆ เหมือนกัน วันนั้นเราสองคนเลยได้แลกไลน์และพูดคุยกันต่อทางแชทในช่วงดึกๆขอบอกก่อนว่า ผมไม่ใช่สุภาพบุรุษหรือเป็นคนดีอะไรมากมายนะครับ แต่ถ้าเข้ามาหาผมก็มีความรักความจริงใจมอบให้แค่หวังจะฟันเป็นกำไรเล็กน้อย น้องเขาชื่อมิ้งครับ เราคุยกันประมาณเดือนกว่าก็พากันไปทานข้าวเย็นที่บ้านเธอ พ่อแม่ของเธอก็เชื่อใจผม ฝากฝังให้ดูแลทั้งที่เราคบกันได้เดือนเดียว ต้องยกเครดิตให้ความเป็นข้าราชการเลยครับวันนั้นหลังจากทานข้าวเย็นเสร็จผมขออนุญาตคุณพ่อกับคุณแม่ของมิ้งพาเธอไปเที่ยวเนื่องในวันวาเลนไทน์ โชคดีมากเลยครับที่พวกท่านอนุญาตและไม่หัวโบราณเพียงแต่บอกว่าดูแลน้องด้วยเพียงเท่านั้น ได้ทีพ่อแม่เปิดโอกาสผมก็ได้ใจ พามิ้งไปเลยครับ เราขับรถวนกันอยู่ชั่วครู่อันที่จริงแค่ต่อด้วยการกินของหวานตบท้ายร้านใกล้ๆโรงเรียน และแวะเข้าบ้านพักผมแบบเนียนๆ อยากจะรู้เหลือเกินว่าเด็กมัธยมผมยาวแก้มแดงๆ จะฟินขนาดไหนผมพาเธอเข้ามาในบ้านพักข้าราชการหลังเล็กๆที่อาศัยอยู่ สภาพกึ่งกลางระหว่างเป็นระเบียบกับรก รินน้ำเย็นๆให้เธอดื่มหนึ่งแก้วก่อนพาทัวร์ว่าด้านในมีอะไรบ้าง ได้โอกาสขอเธอแบบเนียนๆไปด้วยเลย “มิ้ง พี่มีอะไรจะบอก” ผมโพล่งขึ้นขณะเรานั่งข้างกัน “ว่ามาเลยค่ะ” ตอนนั้นใจผมเต้นแรงตุบๆ ตื่นเต้นพอสมควร “พี่เอิ่ม…พี่ขอ…ขอมีอะไรกับหนูได้มั้ย” สุดท้ายผมก็กล้าที่จะพูดออกไปตรงๆ ทั้งที่ความจริงจะสร้างฉากโรแมนติกขึ้นมาให้เธอเคลิ้มก็ได้“จะดีหรอคะ เราเพิ่งจะคบกันได้เดือนเดียวเอง ตัวมิ้งก็ยังไม่เคยด้วย ถ้าแม่รู้มิ้งตายแน่ๆ” สาวน้อยลุกลี้ลุกลน ผมก็พอจะมองออกว่านี่ไม่ใช่การเล่นตัวแต่เป็นการที่เธอนั้นกลัวจริงๆ “พี่รับรองว่าจะป้องกันเป็นอย่างดี อีกอย่างที่แม่อนุญาตให้หนูมา แม่ก็คงจะรู้แล้ว เชื่อใจพี่นะ นะ นะ” ผมเล่นลูกอ้อนไปมาจนแม่สาวน้อยสยบยอมไม่ต้องห่วงเรื่องการป้องกันหรือการท้องก่อนวัยอันควรเพราะผมพกถุงยางไว้ตลอดเวลาเผื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เราเริ่มจากการจูบเหมือนคู่รักมือใหม่ปกติธรรมดาทั่วไป ด้วยความที่คู่นอนของผมคราวนี้ไม่เคยผ่านการฟีทเจอริ่งมาก่อนเลยเป็นงานหนักที่ต้องเล้าโลมถึงขีดสุด ผมใช้มือเชยคางแม่สาวน้อยขึ้นก่อนจูบเบาที่ริมฝีปากนุ่มๆ เคลือบด้วยลิปบาล์มเหนอะหนะ ซึ่งให้ความรู้สึกลื่นๆ มันดีเราเดินไปยังห้องนอนของผมด้วยกัน มิ้งดูไร้เดียงสามากแม้เธอจะเป็นฝ่ายเข้ามาขอไลน์ผมเอง เธอจูบตอบผมเงอะงะ ดูจะเกร็งไปหมดหลังจากนั่งลงบนเตียง “มิ้งไม่ต้องเกร็ง ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เดี๋ยวพี่สอนเอง” เธอดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นเมื่อผมช่วยผ่อนคลาย ผมล้วงมือเข้าไปในเสื้อเธอเพื่อถอดเสื้อยืดออก และปลดตะขอเสื้อใน มิ้งนิ่งแทบไม่ขยับเลยสักนิดผมจัดต่อด้วยการไล่จูบธรรมดาปกติ ถอดกางเกงยีนส์ขาสั้นของเธอออกตามด้วยกางเกงใน ครั้งแรกที่เห็นหีของเธอ มันโคตรของโคตรตื่นเต้น เส้นขนแซมกันดกดำจนแทบมองไม่เห็นอะไร จนกระทั่งจับขามิ้งถ่างออกจึงได้เจอกับร่องแคมสีคล้ำ ตอนนี้รูหีเธอเต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่น บอกตามตรงผมไม่กล้าออรัลเซ็กส์ ได้แต่ใช้มือรูดผ่าน มิ้งแทบไม่ส่งสัญญาณอะไรเลยและ ตอนนี้ควยผมแข็งเต็มที่เตรียมพร้อมจะเสียบเข้าไปผมถอดเสื้อผ้าออกหมดและพยายามเสียบควยแข็งๆ เข้าไปในหีฟิตๆ ของเธอ พยายามอยู่ชั่วครู่สอดเข้าทีมิ้งก็ร้องที ขอให้เอาออก ทว่ามาถึงขั้นนี้แล้วยังไงผมก็ต้องทำให้ได้ ผมสอดควยเข้าจนมิดด้ามแช่ไว้สักพักหลังจากสวมถุงยางอนามัยเรียบร้อย มิ้งเจ็บแต่เธอก็ยังทน ได้ทีผมค่อยๆ โยกด้วยจังหวะช้าๆ แต่เธอก็ยังเจ็บ “โอ้ย…เบาๆ หน่อยได้ไหมคะ หนูเจ็บ” มิ้งทำหน้าเหยเก
