เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผมเมื่อครั้งที่ผมเรียนอยู่ปี 3 ที่บ้านของผมทำธุรกิจส่งออกเล็กๆ ขณะที่ผมเรียนผมก็ทำงานไปด้วย ตอนนั้นอายุประมาณ 19 ปีเอง เราเปิดออฟฟิศกันในบ้านสองชั้น ในโครงการใหญ่แห่งหนึ่ง ออฟฟิศของเรามีเพียงเพื่อนผม ที่ทำหน้าที่เซลส์เดินขายตามห้างเป็นการ เสริมตลาด กับพนักงานบัญชีที่เป็นญาติผม ชื่อพี่อุ เธอเป็นน้องสาวของพี่เขยผม เธออายุประมาณ 24-25 ปี รูปร่างเล็กแต่สมส่วน คือมีหน้าอกพอดีกับตัว แต่ส่วนที่ดูสะดุดตาที่สุดคือ สะโพกกลมกลึงได้รูป เวลาเธอใส่เสื้อขาวมองเห็นเสื้อชั้นในสีดำ ตัดกับผิวน้ำผึ้งดูดีมาก รวมทั้งผมที่รวบขึ้นผูกเป็นหางม้า ทำให้เธอดูสะดุดตา ปกติเวลาผมมีเรียนน้อยก็จะอยู่บ้าน ช่วยงานด้านเอกสารการแปลต่างๆ โต๊ะผมอยู่ตรงข้ามโต๊ะพี่อุพอดี เธอชอบนุ่งกระโปรง สีน้ำเงินรัดรูปตัวสั้นมาทำงานเสมอ และโต๊ะก็ไม่มีบังตา เวลาเธอเผลอ ผมจะแอบมองต้นขาเรียวงามที่โผล่ออกมาให้เห็น บางทีมองเห็นถึงชั้นในแต่ก็เพียงลางๆ บางครั้งเธอมาที่ตู้เอกสารหยิบแฟ้มงานหรือก้มค้นหาแฟ้ม ผมชอบแอบมองเนินอก สวยเต่งตึงคู่นั้นที่โผล่ออกมาพ้นขอบยกทรง โดยทุกครั้งเธอไม่รู้ตัวเลยจนกระทั่งพี่อุแต่งงานแล้วก็ยังทำงานอยู่ที่บ้านผม สามีเธอเป็นข้าราชการอยู่ต่างจังหวัด กลับบ้านอาทิตย์ละครั้ง ช่วงหลังรู้สึกจะกลับห่างขึ้น พี่อุชอบบ่นเสมอว่า กลัวสามีจะ มีเมียน้อย วันนั้นผมไม่มีเรียนจึงอยู่บ้านทำงานกับพี่อุ เพื่อนผมไปออกตลาด คุณพ่อคุณแม่ก็อยู่ต่างจังหวัด นานๆ จะเข้ามา วันนี้เองที่พี่อุดูสีหน้าไม่ดีเลย เหมือนคนไม่สบาย เธอขอตัวไปนอนพักข้างบนบ้าน ซึ่งมีห้องว่างอยู่ ผมเลยต้องนั่งรับ โทรศัพท์แทนไปก่อน มีลูกค้ารายหนึ่งต้องการพูดกับพี่ อุ ผมจึงขึ้นไปตาม ไปดูที่ห้องก็ไม่เห็น ปรากฏว่าเธอไปนอนอ่าน หนังสืออยู่ที่ห้องผม พี่อุบอกว่า “หนังสือน่าอ่านนะ” หนังสือที่ว่าเป็นของก้องหล้า สุรไกร ออกแนวโรมานซ์มาก คนรุ่นเก่า จะรู้จักดีผมตกใจมากเพราะพี่อุถอดเสื้อสูทสั้นตัวนอกออก เหลือเพียงเสื้อตัวใน ที่สมัยนี้เรียกว่าสายเดี่ยวอยู่ตัวเดียว ตอนที่ ผมไปเห็น เธอยังนอนอยู่ กระโปรงสั้นสีน้ำเงินนั้นก็ร่นลงมาเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ใจสั่นแต่พองาม ผมรีบบอกว่ามีโทรศัพท์มา พี่อุลงมาแล้วไปรับปรากฏว่าเขาวางสายไปแล้ว ผมเดินลงมาถึงก่อนก็มานั่งที่โซฟา แล้วเอนตัวลงนอนดูทีวี เพราะรู้สึกล้า เหมือนกัน คิดว่าพี่อุคงจะทำงานได้แล้ว สักพักหลังจากเธอเข้าห้องน้ำ เธอก็เดินมาหยุดที่ตรงปลายขาที่ผมนอนพิงโซฟาอยู่ ผนนอนในท่าชันเข่า สายตาพี่อุมองดูที่ทีวี แต่สะโพกเบียดเหมือนมาพักขาที่ขา ผมผมขนลุกวูบวาบไปหมด สักพักเธอหัน มาบอกว่า “เอาหูโทรศัพท์ออกจากแท่นนะ พี่ไม่อยากรับ” แต่ตอนที่เธอหันมาบอกนั้น ตัวเธอก็หมุนมาด้วย ทำให้ขาตั้งแต่ ส่วนหัวเข่าลงมาของผม สัมผัสช่วงหน้าขาอุ่นๆ ของพี่อุอย่างเต็มที่ และเธอก็เบียดมาเหมือนคนเสียหลัก ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่พยักหน้า พี่อุก็เดินขึ้นบันไดไปแล้วเหมือนนึก อะไรได้ เลยเดินเข้าห้องน้ำใต้บันไดไป สักพักเธอออกมา เดินถืออะไรมา ด้วยสักอย่าง พอผมเพ่งมองก็จุกคอหอย เธอถือเสื้อยกทรงออกมาครับ แล้วเธอใส่อะไรข้างในเสื้อสายเดี่ยวตัวนั้นล่ะ
